น้ำตาเทียม หรือในภาษาอังกฤษ เรียกว่า Artificial Tears คือ ของเหลวที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น สามารถนำมาหล่อลื่นดวงตาที่อยู่ในภาวะตาแห้ง หรือใช้ทดแทนน้ำตาตามธรรมชาติได้ ซึ่งน้ำตาเทียมนี้ จะช่วยบรรเทาการระคายเคืองดวงตา อาการตาแห้ง แสบตาให้ลดลง เพื่อถนอมสายตาเอาไว้ รวมไปจนถึงสามารถนำมาเป็นสารหล่อลื่นดวงตาในขณะใช้คอนแทคเลนส์
น้ำตาเทียมนี้ สามารถหาซื้อได้ด้วยตนเองตามทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล ร้านขายยา ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้ใบสั่งจากแพทย์ในการสั่งซื้อ
น้ำตาเทียมมีกี่รูปแบบ อะไรบ้าง
น้ำตาเทียมแบ่งออกเป็น 3 ประเภท โดยแต่ละประเภทมีจุดเด่นและลักษณะแตกต่างกันไป ดังนี้
1.น้ำตาเทียมแบบขวด หรือ น้ำตาเทียมแบบรายเดือน มีการใส่สารกันเสีย จึงทำให้อาจเกิดโอกาสแพ้ หรือระคายเคืองในผู้ใช้งานบางราย อีกทั้งยังต้องระมัดระวังเรื่องของการจัดเก็บและการใช้งาน เพราะหากจัดเก็บไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดการติดเชื้อบริเวณดวงตาในระหว่างการใช้งานได้เหมาะสำหรับบุคคลที่มีภาวะตาแห้งเล็กน้อย ต้องการใช้น้ำตาเทียมเป็นประจำ ไม่ชอบความเหนอะหนะ
2.น้ำตาเทียมแบบหลอด หรือ น้ำตาเทียมแบบรายวัน เป็นน้ำตาเทียมไม่มีสารกันเสีย อายุการใช้งานอยู่ได้เพียง 24 ชั่วโมงหลังจากเปิดน้ำตาเทียมเท่านั้น โดยน้ำตาเทียมจะถูกแบ่งบรรจุเป็นหลอด ซึ่งแต่ละหลอดมีปริมาณเท่ากัน ทำให้โอกาสในการติดเชื้อหรือปนเปื้อนจากภายนอกลดลง อีกทั้งยังสามารถพกพาได้สะดวก ใช้งานง่าย ทำให้รู้สึกสบายดวงตาหลังการใช้งาน แต่ราคาค่อนข้างสูงกว่าน้ำตาเทียมแบบขวด เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้หรือระคายเคืองต่อสารกันเสียในน้ำตาเทียม คนที่จำเป็นต้องหยอดตาบ่อยครั้งติดต่อกัน และคนที่ไม่ชอบความเหนอะหนะ

3.น้ำตาเทียมแบบเจล หรือ แบบขี้ผึ้งป้ายดวงตา เป็นน้ำตาเทียมที่ไม่ต้องใช้งานบ่อย เนื่องจากมีความหนืดค่อนข้างมากกว่าตัวอื่นๆ ทำให้รักษาความชุ่มชื้นได้นานยิ่งกว่า อย่างไรก็ตามควรทำตามคำแนะนำในเอกสารกำกับยา และระมัดระวังเรื่องของการจัดเก็บ เพื่อป้องกันการติดเชื้อภายในดวงตา
สิ่งที่ควรรู้สำหรับการเลือกใช้งานน้ำตาเทียมแบบเจล แนะนำว่าควรใช้งานตอนก่อนเข้านอน เพราะหลังจากหยอดน้ำตาเทียมแล้ว อาจมีอาการตาพร่ามัวชั่วขณะ และผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ไม่ควรใช้น้ำตาเทียมแบบเจล เนื่องจากอาจทำให้ประสิทธิภาพของเลนส์และการมองเห็นถูกรบกวน เหมาะสำหรับคนที่มีอาการตาแห้งระดับปานกลางถึงระดับมาก และคนที่ไม่ค่อยมีเวลาในการใช้งานน้ำตาเทียม
ประโยชน์ของน้ำตาเทียม
ประโยชน์ของน้ำตาเทียม ได้แก่
1.เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา
น้ำตาเทียมสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตาของเราได้ เนื่องจากมีส่วนประกอบหลายอย่างที่คล้ายคลึงกับน้ำตาในธรรมชาติ ทำให้เมื่อหยอดน้ำตาเทียมลงไปแล้ว จะเกิดการจับตัวเป็นแผ่นฟิล์มบางๆบนผิวดวงตา ซึ่งเป็นการหล่อลื่นดวงตาที่ค่อนข้างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
2.หล่อลื่นลูกตาหลังการผ่าตัด
การผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับดวงตา หรือการแก้ไขปัญหาทางการมองเห็น อาจทำให้เกิดภาวะตาแห้ง ระคายเคืองตา คันตา ตาแดง หรือเกิดผลข้างเคียงอื่นๆตามมาได้ การใช้น้ำตาเทียมหลังทำเลสิค ผ่าตัดต้อกระจก ฯลฯ จะช่วยบรรเทาอาการเหล่านั้นให้ลดลง รู้สึกสบายดวงตามากขึ้น
3.บรรเทาอาการต่างๆ
น้ำตาเทียม สามารถบรรเทาอาการต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นอาการแสบร้อนดวงตา ระคายเคืองจากฝุ่น ควันต่างๆที่มักพบเจอในชีวิตประจำวัน กระจกตาถลอก ลดความอักเสบของแผลที่กระจกตา และยังสามารถขจัดสิ่งสกปรกออกไปจากผิวดวงตาได้อีกด้วย
4.ช่วยยับยั้งอาการต้อหิน
น้ำตาเทียม ประโยชน์อีกข้อหนึ่งก็คือ สามารถช่วยยับยั้งอาการต้อหินไม่ให้มีระดับที่รุนแรงไปมากกว่าที่เป็นอยู่ได้ จากการหยอดตาเพื่อระบายความดันภายในลูกตาให้ลดลง จึงทำให้ความเสี่ยงในการเป็นต้อหินแล้วตาบอดลดลงไปด้วย เพราะการที่ความดันภายในลูกตาเพิ่มสูงเกินไป จะทำให้เป็นอันตรายต่อเรตินาที่อยู่ภายในได้
5.ใช้เป็นน้ำตาเทียมคอนแทคเลนส์
น้ำตาเทียมสามารถให้ความชุ่มชื้นแก่ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ได้ เพียงแค่คุณจะต้องเลือกน้ำตาเทียมที่ผลิตไว้สำหรับคอนแทคเลนส์โดยเฉพาะเท่านั้น หรือหากไม่สามารถหาซื้อได้ อีกรูปแบบที่จะสามารถใช้งานได้ คือ น้ำตาเทียมแบบหลอด หรือน้ำตาเทียมแบบรายวัน เพราะน้ำตาเทียมรูปแบบนี้ ไม่มีผสมสารกันเสียนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้น้ำตาเทียมที่ผสมสารกันเสียกับคอนแทคเลนส์ เพราะคอนแทคเลนส์สามารถดูดซับสารบางชนิดที่ทำลายเซลล์เยื่อบุกระจกตาได้ หากสัมผัสกับดวงตาเป็นระยะเวลานาน ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน อีกทั้งยังสามารถทำให้คอนแทคเลนส์เปลี่ยนสี ประสิทธิภาพลดลง
ข้อควรระวังในการใช้น้ำตาเทียม
หากคุณมีความจำเป็นจะต้องใช้น้ำตาเทียมค่อนข้างบ่อย ให้คุณปฏิบัติตามข้อควรระวัง ดังต่อไปนี้
1. ใช้น้ำตาเทียมตามคำแนะนำของแต่ละรูปแบบ เช่น น้ำตาเทียมแบบรายวัน ต้องใช้ไม่เกิน 12-24 ชั่วโมง หลังจากเปิด หรือน้ำตาเทียมแบบรายเดือน ใช้ได้ไม่เกิน 1 เดือน หลังจากเปิดแล้ว เป็นต้น2. ไม่ควรใช้น้ำตาเทียมร่วมกันกับคนอื่นๆ เพราะอาจเกิดการติดเชื้อดวงตาได้3. กรณีที่ต้องใช้น้ำตาเทียมและยาหยอดดวงตาเพิ่มเติม ควรใช้งานห่างกันประมาณ 10 นาที จึงจะดีที่สุด4. หากเป็นคนที่ใช้งานน้ำตาเทียมเป็นระยะเวลานาน มีการใช้งานบ่อยๆ หรือคนที่ชอบใส่คอนแทคเลนส์ ควรเลือกน้ำตาเทียม หรือน้ำตาเทียมสำหรับคอนแทคเลนส์ที่ไม่ผสมสารกันเสีย 5. วิธีหยอดน้ำตาเทียม จะต้องระมัดระวังไม่ให้ปลายหลอดสัมผัสบริเวณดวงตา หรือขนตา เพื่อป้องกันการติดเชื้อจนดวงตาอักเสบ6. สังเกตตนเองอยู่เป็นระยะ หากมีอาการผิดปกติ เช่น เกิดการระคายเคือง มีภาวะตาแห้งมากขึ้น แนะนำว่า ควรเข้าพบจักษุแพทย์ เพื่อค้นหาสาเหตุและรักษาเป็นลำดับถัดไป