ผ่าตัดต้อกระจก (Cataract Surgery)
การผ่าตัดต้อกระจก (Cataract Surgery) คือการรักษาต้อกระจกด้วยวิธีการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตา โดยที่การผ่าตัดเป็นวิธีการรักษาทางเดียวของโรคต้อกระจก เนื่องจากโรคนี้ยังไม่มียาใดๆ ที่สามารถชะลออาการของโรค หรือทำให้ต้อกระจกหายไปได้
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดต้อกระจก
ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดต้อกระจก ต้องมีการตรวจประเมินจากแพทย์ก่อนในเบื้องต้นแพทย์จะตรวจเกี่ยวกับอาการของโรค การขยายของม่านตา และตรวจดูจอประสาทตา เพื่อเลือกวิธีการและขั้นตอนการรักษาที่เหมาะสมให้กับผู้เข้ารับการรักษา
แพทย์ยังต้องสอบถามเกี่ยวกับโรคประจำตัว และดูประวัติการรักษาว่าเป็นโรคอะไรอยู่ กำลังใช้ยาอะไร เพื่อประเมินความเสี่ยงของการผ่าตัด และให้งดยาบางตัวหากประเมินแล้วว่าอาจมีผลกับการผ่าตัด
นอกจากการตรวจดังกล่าว แพทย์ยังต้องตรวจประเมินสายตาก่อนการผ่าตัดต้อกระจกด้วย
การดูแลหลังผ่าตัดต้อกระจก
แม้แผลจากการผ่าตัดต้อกระจกจะเล็กมาก แต่ก็เป็นแผลผ่าตัดที่เสี่ยงกับการติดเชื้อ เกิดอาการแทรกซ้อน หรือเกิดข้อผิดพลาดได้หากดูแลดวงตาไม่ดีหลังผ่าตัด ดังนั้นหลังการผ่าตัด ผู้ที่ผ่าตัดต้อกระจกจะต้องดูแลตัวเองตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด โดยวิธีการดูแลตนเองในเบื้องต้น มีดังนี้
1. แพทย์จะจ่ายยาทั้งยาหยอดและยาสำหรับทานให้กับคนไข้หลังผ่าตัด ควรใช้ยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
2. วันแรกหลังผ่าตัดควรนอนพักผ่อนให้มากที่สุด ควรนอนหมอนสูง ห้ามนอนตะแคงด้านที่เพิ่งผ่าตัดต้อกระจก สามารถนอนตะแคงอีกข้างหนึ่งได้
3. หลังการผ่าตัด 1 วัน แพทย์จะนัดเปิดตาเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย และทำความสะอาด
4. ทำความสะอาดดวงตาทุกวันอย่างถูกวิธี
5. ห้ามขยี้ตา ห้ามสัมผัสดวงตาโดยไม่จำเป็น และควรระมัดระวังอย่าให้น้ำ หรือเศษฝุ่นละอองต่างๆเข้าตาโดยเด็ดขาด
6. ควรใส่แว่นกันแดดในตอนกลางวัน และใส่ที่ครอบตาหลังผ่าตัดในตอนกลางคืนอย่างสม่ำเสมอ เป็นเวลา 1 เดือน
7. ล้างหน้าด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้า ควรสระผมที่ร้าน หรือให้ผู้ดูแลสระผมให้เพื่อป้องกันน้ำเข้าตา
8. ระวังอย่าไอ จาม หรือเบ่งอย่างรุนแรง
9. อย่าออกกำลังกาย ยกของหนัก หรือก้มศีรษะต่ำกว่าเอวอย่างน้อย 1 เดือน
10. ใช้สายตาอ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ หรือเล่นโทรศัพท์ได้ตามปกติ แต่ถ้าแสบตาหรือปวดตา ควรหยุดพัก
11. ถ้าก่อนผ่าตัดงดยาไป แพทย์จะเป็นผู้แจ้งว่าให้กลับไปใช้ได้เมื่อไหร่
12. ถ้าเกิดความผิดปกติกับดวงตา อย่างการปวดตา ตาบวมแดง มีขี้ตามาก ภาพไม่ชัด ภาพซ้อนเอียง ควรแจ้งแพทย์และนัดพบโดยเร็วที่สุด
อาการหลังผ่าตัดต้อกระจก
หลังจากผ่าตัดต้อกระจกทันที ผู้ป่วยอาจจะมีการระคายเคือง คันดวงตาบ้างเล็กน้อย แล้วจึงกลับมามองเห็นได้ชัดเป็นปกติ ซึ่งหลังผ่าตัดต้อกระจก 1 เดือน เพื่อให้เลนส์เทียมเข้าที่ ไม่ขยับเขยือนผิดที่ไป ผู้ป่วยจึงยังไม่ควรทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก กระเทือนไปถึงดวงตา
หลังจากผ่าตัดต้อกระจกไปแล้ว ในผู้ป่วยบางรายอาจจะพบว่าหลังผ่าตัดต้อกระจกแล้วมองไม่ชัด ตามัว หรือที่เรียกกันว่า Posterior Cassular Opacity (PCO) หรือ Secondary Cataract คือภาวะที่เซลล์ในถุงหุ้มเลนส์หลังเลนส์ตาเทียมก่อตัวหนาขึ้น ขุ่นขึ้น ทำให้เกิดอาการตาพร่า มองไม่ชัด
ผ่าตัดต้อกระจก กี่วันหาย?
ผ่าตัดต้อกระจกพักฟื้นเพียง 1 วันก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล เพียงแค่ต้องระมัดระวังการใช้ชีวิต ดูแลความสะอาดของดวงตา และใช้ยาที่แพทย์จ่ายให้อย่างสม่ำเสมอเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน ก็สามารถทำกิจกรรมต่างๆได้ปกติ
ส่วนดวงตานั้น จะปรับตัวกับเลนส์ใหม่ และมองเห็นได้ชัดในเวลา 2 - 3 วัน หากผ่าตัดด้วยวิธีสลายต้อแบบใหม่ ส่วนการผ่าตัดแบบเก่าจะใช้เวลาประมาณ 4 - 6 สัปดาห์
ผ่าต้อกระจก อยู่ได้กี่ปี
ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดต้อกระจก จะสามารถกลับมาเป็นปกติเหมือนกับคนทั่วไป และตาข้างที่เคยผ่าตัดต้อกระจกแล้วจะไม่สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก โดยภาพหลังจากฝังเลนส์แก้วตาเทียมแล้ว ผู้ป่วยจะสามารถมองเห็นได้ใกล้เคียงกับของจริงมากที่สุด
ขั้นตอนการเช็ดทำความสะอาดรอบดวงตา
การเช็ดทำความสะอาดรอบดวงตา มีข้อปฎิบัติดังนี้
• ล้างมือให้สะอาด และเช็ดให้แห้งก่อนจับดวงตาทุกครั้ง
• ใช้สำลีชุบน้ำเกลือ บิดให้หมาดเล็กน้อย เช็ดจากหัวตาไปหางตาจนสะอาดทั้งเปลือกตาบนและเปลือกตาล่าง
• เช็ดตาอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 2 - 4 เดือนหลังการผ่าตัดต้อกระจก
วิธีใส่ที่ครอบตา
การดูแลดวงตาหลังผ่าตัดต้อกระจก ผู้ป่วยควรใส่ที่ครอบดวงตาในเวลาน้อยอย่างน้อยเป็นเวลา 1 เดือน โดยควรทำความสะอาดที่ครอบดวงตาทุกวันด้วยน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจาน แล้วจึงล้างให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า เช็ดให้แห้งก่อนนำมาครอบดวงตา
วิธีครอบตาหลังผ่าตัดเริ่มแรกผู้ใส่จะตัดพลาสเตอร์กาวให้ยาวประมาณ 5 นิ้ว 4 เส้น แล้วจึงเอาที่ครอบดวงตาหันด้านที่ตรงกว่าเข้าชิดจมูก แปะพลาสเตอร์ทับไปบนที่ครอบตาข้างละ 2 เส้นในแนวเฉียงไปหาแก้ม เป็นอันเรียบร้อย
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังผ่าตัดต้อกระจก
ถึงแม้ว่าการผ่าตัดต้อกระจก จะเป็นวิธีการรักษาที่มีความปลอดภัยสูง แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงได้ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและวิธีรักษาความสะอาดของแต่ละบุคคล โดยผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น มีดังนี้
1. อาการติดเชื้อหลังผ่าตัดต้อกระจก อาการนี้พบได้น้อย แต่ก็สามารถพบได้หากไม่รักษาความสะอาด ถ้าหลังผ่าตัดมีอาการบวมแดง เจ็บ ขี้ตาเยอะกว่าปกติมาก อาจจะเกิดจากการติดเชื้อ ถ้ามีอาการเหล่านี้ให้พบแพทย์โดยเร็ว
2. จุดรับภาพบวม พบได้บ่อยหลังการผ่าตัดต้อกระจก พบร่วมกับอาการอักเสบหลังการผ่าตัด เมื่อจุดรับภาพบวม จะส่งผลให้ตามัว ภาพเบี้ยว มักจะเกิดหลังจากผ่าตัด 1 - 2 สัปดาห์ และสามารถหายเองได้หลังจากนั้นประมาณ 6 เดือน
3. ถุงหุ้มเลนส์ขุ่น มักจะเกิดหลังจากผ่าตัดไปแล้วหลายปี ทำให้มองเห็นไม่ชัดอย่างเดิม ภาพขุ่นมัวลง หากเกิดอาการนี้ให้นัดพบแพทย์ แพทย์จะรักษาโดยการใช้ “Yag Laser” ยิงที่ดวงตาให้แสงเข้าไปในตาได้ดีขึ้น ใช้เวลายิงเลเซอร์เพียง 5 นาที พักสายตา และหยอดยาที่แพทย์ให้ประมาณ 1 - 2 วันก็สามารถกลับมาใช้สายตาได้ตามปกติ